วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การเขียนเพื่อผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

การเขียนเพื่อผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

     การเขียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คือกลไกสำคัญที่ทำให้มนุษย์สื่อสารถึงกันได้สำเร็จ
 ปัจจุบันสื่อต่างๆ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้มนุษย์มีทางเลือกสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวันมากขึ้น


1. ความหมายและความสำคัญ

        สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic media) หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วย

วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อาจอยู่ในรูปของ สื่อบันทึกข้อมูลประเภทสารแม่เหล็ก

เช่น แผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน (floppy disk) และสื่อประเภทจานแสง(optical disk)

บันทึกอักขระแบบดิจิตอลไม่สามารถอ่านได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์

บันทึกและอ่านข้อมูล เป็นสื่อการเรียนการสอนที่เกิดจากวิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศและ

การสื่อสารโทรคมนาคม การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการเรียนการสอนจะออกมาใน
ลักษณะของสื่อประสม หรือมัลติมีเดีย (Multimedia) แสดงผลออกมาหลายรูปแบบตาม
ที่โปรแกรมไว้ เช่น มีเสียง เป็นภาพเคลื่อนไหว สามารถให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ ปัจจุบัน
สื่อประเภทนี้มีหลายลักษณะ

2. ประเภทของสื่ออิเล็กทรอนิกส์

        1.คอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI
                      CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED หมายถึง สื่อการเรียนการสอน
ทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่งซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสม ได้แก้
 ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟิก แผนภูมิกราฟ วีดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหวและเสียง

          2.WBI (Web-based Instruction)
                     คือ บทเรียนที่สร้างขึ้นสำหรับการเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยนำจุดเด่นของวิธีการ
ให้บริการข้อมูลแบบ www มาประยุกต์ใช้Web Base Instructionจึงเป็นบทเรียนประเภท CAI แบบ On-line
 ในที่นี้หมายความว่า ผู้เรียนเรียนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ติดต่อผ่านเครือกับเครื่องแม่ข่ายที่บรรจุบทเรียน

         3.การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Learning
                     เป็นการศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตเป็นการเรียนรู้
ด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตนโดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย
ข้อความ รูปภาพ เสียง วีดีโอ มัลติมีเดียอื่นๆ

         4.E-book
                    เป็นคำภาต่างประเทศ ย่อมาจากคำว่า electronic book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วย
โปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดยปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่าน
เอกสารทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์

        5. E-Training
                    E-Training หมายถึง กระบวนการการฝึกอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นกระบวนการจัดการ
ฝึกทักษะเพิ่มพูนสาระความรู้ ที่เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมนั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เข้าอบรมมีอิสระในการเข้า
ศึกษา เรียนรู้ตามเวลาโอกาสที่ผู้ฝึกอบรมต้องการโดยเนื้อหาขององค์ความรู้จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาเรียนรู้
ได้โดยง่าย ในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วยสื่อที่เป็นข้อความรูปหรืออาจมีภาพเคลื่อนไหว

         6.Learning Object
                   หมายถึง การจัดรูปแบบสาระการเรียนรู้เป็นหน่วยที่เป็นอิสระใช้เวลาสำหรับการเรียนรู้ เป็นช่วงสั้นๆ
 ประมาณ 2 ถึง 15 นาทีและถึงแม้ว่าจะเป็นการเรียนรู้แบบหน่วยย่อยก็ตาม Learning Object จะมีความสมบรูณ์ใน
ตัวเอง ซึ่งในแต่ละเนื้อหาจะประกอบชื่อเรื่องคำอธิบาย คำสำคัญ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้
 และการประเมินผล ประการหนึ่งคือ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง


3. บทบาทของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวัน
            สื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความจำเป็นและความต้องการของมนุษย์ในด้านต่างๆจนปัจจุบันเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตด้วย
เหตุที่เป็นสื่อซึ่งได้เปรียบในเรื่องความเร็ว ความจุของข้อมูลความสะดวก ต้นทุน ค่าใช้จ่าย
น้อยกว่าสื่ออื่นๆ รวมถึงความหลากหลายของรูปแบบและข้อมูล ทำให้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มีบทบาท
ที่สำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษย์ในด้านต่างๆ ดังนี้


                 1. บทบาทของการสื่อสารระหว่างบุคคล 
                       1.1  สร้างความเข้าใจร่วมกัน คือ การสื่อสารที่มุ่งเน้นให้ผู้รับสารเข้าใจเนื้อหาสาระหรือข้อมูลร่วม
กันอย่างถูกต้อง เช่น การสื่อสารภายในองค์กรเพื่อปฏิบัติงานร่วมกัน เป็นต้น 
                       1.2 สร้างความชื่นชอบ คือ การสื่อสารที่ไม่สื่อสารเฉพาะข้อมูลข่าวสารแต่มีอารมณ์ความรู้สึกแล
ะความพึงพอใจร่วมกัน จะช่วยสร้างสัมพันธภาพและความชื่นชอบในการสื่อสารซึ่งกันและกัน 
                       1.3 สร้างอิทธิพลต่อการมีทัศนคติร่วมกัน ความล้มเหลวในการสื่อสารบางครั้งเกิดจากความไม่เข้าใจ
ในความคิดและทัศนคติของกันและกัน ดังนั้น การสร้างความเข้าใจร่วมกันจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้ 
                       1.4 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ ปัจจัยที่สำคัญที่สามารถส่งผลต่อความสำเร็จในการสื่อสาร
คือความรู้สึกที่ดีต่อกัน ดังนั้นการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันจะช่วยให้การสื่อสารในครั้งต่อๆ ไปมี
ประสิทธิภาพมากขึ้น 
                      1.5 เพื่อให้เกิดการกระทำตามความต้องการ การสื่อสารในแต่ละครั้งมีวัตถุประสงค์ประการหนึ่ง 
คือ การสร้างความมุ่งหมายร่วมกัน เพื่อให้เกิดความคิดเห็นร่วมกันและการกระทำร่วมกันในสิ่งที่ต้องการ 
                2. บทบาทของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่อการสื่อสารระหว่างบุคคล 
                      2.1 แลกเปลี่ยนข้อมูล ทำให้การติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ความคิดเห็นระหว่าง
บุคคลเป็นไปโดยสะดวก 
                      2.2 ลดการเผชิญหน้า คลายความอึดอัดคับข้องใจ ความวิตกกังวล เมื่อต้องสื่อสารแบบเผชิญหน้ากับ
บุคคลที่ไม่คุ้นเคย 
                      2.3 พัฒนาบุคลิกภาพในการสื่อสาร จากการเป็นคนเก็บตัวไม่ชอบสื่อสารกับใคร แต่เมื่อมีโอกาส
ด้สื่อสารผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งผู้ส่งสารมีอิสระในการแสดงความรู้สึกนึกคิดมีช่วงเวลาสำหรับการทบทวน แสวงหา
ข้อมูล หรือไตร่ตรองก่อนสื่อสาร และการขยายเครือข่ายทางสังคม ย่อมเป็นการสร้างทรรศนะในเชิงบวกและช่วยทำให้
ผู้สื่อสารเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย มองเห็นว่าการสื่อสารระหว่างบุคคลไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ในบางครั้งยังเป็นจุดเริ่มต้น
ของการสร้างสัมพันธภาพระหว่างคู่สื่อสาร ทำให้การสื่อสารระหว่างบุคคลแบบเผชิญหน้าในครั้งต่อไป คลายความกังวล
และกดดัน 
                     2.4 ระมัดระวังการใช้ถ้อยคำ เนื่องจากลักษณะของภาษาเขียนที่เป็นลายลักษณ์อักษรย่อมเป็นหลักฐาน
ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา หากมีการพูดหรือแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากการพิจารณาไตร่ตรองความรอบคอบ 
จึงอาจกล่าวได้ว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทต่อการพัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลให้ดียิ่งขึ้น

4. แนวทางการเขียนเพื่อผ่านสื่อเล็กทรอนิกส์
               สังคมในลักษณะที่ให้ความสำคัญกับสารสนเทศเช่นนี้มีส่วนสร้างสังคมแห่งเครือข่าย (network society) 
ทำให้เกิดลักษณะที่เรียกว่า "โลกไร้พรมแดน" การเชื่อมต่อโยงคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า
 อินเตอร์เน็ต (internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อหลายๆเครือข่ายทั่วโลก
การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทำได้หลากหลาย เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (e-mail) 
สนทนา (Chat) อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด การเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning) การประชุมทางไกล
ผ่านอินเทอร์เน็ต (Video Conference) โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VolP) การอัพโหลดข้อมูลหรืออื่นๆ 
        ปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ มีการใช้อินเทอร์เน็ต
ผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet) 
        ดังนั้น ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนต้องมีความรู้ คือ รู้เท่าทันผู้ส่งสารด้วยการตรวจสอบ
แหล่งที่มาของข้อมูลจากหลายๆ ทางใช้วิจารณญาณก่อนที่จะเชื่อถือ 
                      1) ใช้คำให้เหมาะกับความนิยม การใช้คำให้เหมาะสมกับสมัยนิยมจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรคำนึงถึง 
คำแสลง ภาษาเฉพาะกิจ เฉพาะกาล ควรเลือกใช้ภาษาเขียนที่สือความได้ชัดเจน มีความหมายเป็นที่ยอมรับกันในวงสังคม 
                     2) กาลเทศะ ให้ความสำคัญกับระดับภาษาที่ใช้สื่อสารกับผู้ที่อยู่ในฐานะทางสังคมแตกต่างกัน 
ควรศึกษาก่อนลงมือเขียนว่าควรใช้คำต่างๆ อย่างไรจึงจะเหมาะสม 
                     3) ความสุภาพ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำหรือข้อความที่มีความหมายแฝงหรือมีนัยทำให้ตีความได้ในแง่ลบ 
                     4) สื่อความตรงไปตรงมา ควรยึดหลักใช้ภาษาเขียนที่อ่านเข้าใจง่าย คำที่เป็นภาษาพูดคนส่วนใหญ่มัก
เขียนปะปนและอาจหลงเข้าใจผิดว่าเป็นภาษาเขียน เช่น 
- ยังไง (ภาษาพูด) ภาษาเขียนควรใช้ว่า อย่างไร 
- เยอะแยะ (ภาษาพูด) ภาษาเขียนควรใช้ว่า มากมาย


  4.1 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล (e-mail)

                    จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล คือการติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือโดยการส่งข้อมูลในรูป
ของสัญญาณข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แทนการส่งจดหมาย รูปแบบและเนื้อหาของข้อความ
ที่สื่อสารจึงมีทั้งความเป็นส่วนตัว เรื่องส่วนบุคลล และเรื่องสาธารณะ




         


 4.2 เฟซบุ๊ก (Facebook) 
                    เฟซบุ๊ก (Facebook) เฟซบุ๊กมีจำนวนผู้ใช้ประจำ 500 ล้านบัญชี สามารถสร้างข้อมูลส่วนตัว เพิ่มราย
ชื่อผู้ใช้อื่นในฐานะเพื่อนและแลกเปลี่ยนข้อความ อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าสมัครลงทะเบียนกับเฟซบุ๊กโดยต้องมี
อายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไป


4.3 ทวิตเตอร์ (Twitter) 
                    ทวิตเตอร์ (Twitter) โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร สามารถเลือกรับข้อความ
เหล่านี้ทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ อีเมล เอสเอ็มเอส เมสเซนเจอร์ (IM), RSS, หรือผ่านโปรแกรมเฉพาะอย่าง Twitterific, 
Twhirl







































































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น