การเขียนเพื่อผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
การเขียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คือกลไกสำคัญที่ทำให้มนุษย์สื่อสารถึงกันได้สำเร็จ
ปัจจุบันสื่อต่างๆ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้มนุษย์มีทางเลือกสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวันมากขึ้น
1. ความหมายและความสำคัญ
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic media) หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วย
วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อาจอยู่ในรูปของ สื่อบันทึกข้อมูลประเภทสารแม่เหล็ก
เช่น แผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน (floppy disk) และสื่อประเภทจานแสง(optical disk)
บันทึกอักขระแบบดิจิตอลไม่สามารถอ่านได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
บันทึกและอ่านข้อมูล เป็นสื่อการเรียนการสอนที่เกิดจากวิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารโทรคมนาคม การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการเรียนการสอนจะออกมาใน
ลักษณะของสื่อประสม หรือมัลติมีเดีย (Multimedia) แสดงผลออกมาหลายรูปแบบตาม
ที่โปรแกรมไว้ เช่น มีเสียง เป็นภาพเคลื่อนไหว สามารถให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ ปัจจุบัน
สื่อประเภทนี้มีหลายลักษณะ
2. ประเภทของสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.คอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI
CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED หมายถึง สื่อการเรียนการสอน
ทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่งซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสม ได้แก้ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟิก แผนภูมิกราฟ วีดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหวและเสียง
2.WBI (Web-based Instruction)
คือ บทเรียนที่สร้างขึ้นสำหรับการเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยนำจุดเด่นของวิธีการ
ให้บริการข้อมูลแบบ www มาประยุกต์ใช้Web Base Instructionจึงเป็นบทเรียนประเภท CAI แบบ On-line ในที่นี้หมายความว่า ผู้เรียนเรียนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ติดต่อผ่านเครือกับเครื่องแม่ข่ายที่บรรจุบทเรียน
3.การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Learning
เป็นการศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตเป็นการเรียนรู้
ด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตนโดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วีดีโอ มัลติมีเดียอื่นๆ
4.E-book
เป็นคำภาต่างประเทศ ย่อมาจากคำว่า electronic book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วย
โปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดยปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่าน เอกสารทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์
5. E-Training
E-Training หมายถึง กระบวนการการฝึกอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นกระบวนการจัดการ
ฝึกทักษะเพิ่มพูนสาระความรู้ ที่เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมนั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เข้าอบรมมีอิสระในการเข้า ศึกษา เรียนรู้ตามเวลาโอกาสที่ผู้ฝึกอบรมต้องการโดยเนื้อหาขององค์ความรู้จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาเรียนรู้ ได้โดยง่าย ในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วยสื่อที่เป็นข้อความรูปหรืออาจมีภาพเคลื่อนไหว
6.Learning Object
หมายถึง การจัดรูปแบบสาระการเรียนรู้เป็นหน่วยที่เป็นอิสระใช้เวลาสำหรับการเรียนรู้ เป็นช่วงสั้นๆ
ประมาณ 2 ถึง 15 นาทีและถึงแม้ว่าจะเป็นการเรียนรู้แบบหน่วยย่อยก็ตาม Learning Object จะมีความสมบรูณ์ใน ตัวเอง ซึ่งในแต่ละเนื้อหาจะประกอบชื่อเรื่องคำอธิบาย คำสำคัญ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผล ประการหนึ่งคือ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
1.1 สร้างความเข้าใจร่วมกัน คือ การสื่อสารที่มุ่งเน้นให้ผู้รับสารเข้าใจเนื้อหาสาระหรือข้อมูลร่วม
กันอย่างถูกต้อง เช่น การสื่อสารภายในองค์กรเพื่อปฏิบัติงานร่วมกัน เป็นต้น
1.2 สร้างความชื่นชอบ คือ การสื่อสารที่ไม่สื่อสารเฉพาะข้อมูลข่าวสารแต่มีอารมณ์ความรู้สึกแล
ะความพึงพอใจร่วมกัน จะช่วยสร้างสัมพันธภาพและความชื่นชอบในการสื่อสารซึ่งกันและกัน
1.3 สร้างอิทธิพลต่อการมีทัศนคติร่วมกัน ความล้มเหลวในการสื่อสารบางครั้งเกิดจากความไม่เข้าใจ
ในความคิดและทัศนคติของกันและกัน ดังนั้น การสร้างความเข้าใจร่วมกันจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้
1.4 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ ปัจจัยที่สำคัญที่สามารถส่งผลต่อความสำเร็จในการสื่อสาร
คือความรู้สึกที่ดีต่อกัน ดังนั้นการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันจะช่วยให้การสื่อสารในครั้งต่อๆ ไปมี ประสิทธิภาพมากขึ้น
1.5 เพื่อให้เกิดการกระทำตามความต้องการ การสื่อสารในแต่ละครั้งมีวัตถุประสงค์ประการหนึ่ง
2. บทบาทของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่อการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ การสร้างความมุ่งหมายร่วมกัน เพื่อให้เกิดความคิดเห็นร่วมกันและการกระทำร่วมกันในสิ่งที่ต้องการ
2.1 แลกเปลี่ยนข้อมูล ทำให้การติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ความคิดเห็นระหว่าง
บุคคลเป็นไปโดยสะดวก
2.2 ลดการเผชิญหน้า คลายความอึดอัดคับข้องใจ ความวิตกกังวล เมื่อต้องสื่อสารแบบเผชิญหน้ากับ
บุคคลที่ไม่คุ้นเคย
2.3 พัฒนาบุคลิกภาพในการสื่อสาร จากการเป็นคนเก็บตัวไม่ชอบสื่อสารกับใคร แต่เมื่อมีโอกาส
ได้สื่อสารผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งผู้ส่งสารมีอิสระในการแสดงความรู้สึกนึกคิดมีช่วงเวลาสำหรับการทบทวน แสวงหา ข้อมูล หรือไตร่ตรองก่อนสื่อสาร และการขยายเครือข่ายทางสังคม ย่อมเป็นการสร้างทรรศนะในเชิงบวกและช่วยทำให้ ผู้สื่อสารเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย มองเห็นว่าการสื่อสารระหว่างบุคคลไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ในบางครั้งยังเป็นจุดเริ่มต้น ของการสร้างสัมพันธภาพระหว่างคู่สื่อสาร ทำให้การสื่อสารระหว่างบุคคลแบบเผชิญหน้าในครั้งต่อไป คลายความกังวล และกดดัน
2.4 ระมัดระวังการใช้ถ้อยคำ เนื่องจากลักษณะของภาษาเขียนที่เป็นลายลักษณ์อักษรย่อมเป็นหลักฐาน
ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา หากมีการพูดหรือแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากการพิจารณาไตร่ตรองความรอบคอบ จึงอาจกล่าวได้ว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทต่อการพัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคลให้ดียิ่งขึ้น
4. แนวทางการเขียนเพื่อผ่านสื่อเล็กทรอนิกส์
ทำให้เกิดลักษณะที่เรียกว่า "โลกไร้พรมแดน" การเชื่อมต่อโยงคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต (internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อหลายๆเครือข่ายทั่วโลก การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทำได้หลากหลาย เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (e-mail) สนทนา (Chat) อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด การเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning) การประชุมทางไกล ผ่านอินเทอร์เน็ต (Video Conference) โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VolP) การอัพโหลดข้อมูลหรืออื่นๆ ปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ มีการใช้อินเทอร์เน็ต ผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet)
ดังนั้น ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนต้องมีความรู้ คือ รู้เท่าทันผู้ส่งสารด้วยการตรวจสอบ
แหล่งที่มาของข้อมูลจากหลายๆ ทางใช้วิจารณญาณก่อนที่จะเชื่อถือ
1) ใช้คำให้เหมาะกับความนิยม การใช้คำให้เหมาะสมกับสมัยนิยมจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรคำนึงถึง
คำแสลง ภาษาเฉพาะกิจ เฉพาะกาล ควรเลือกใช้ภาษาเขียนที่สือความได้ชัดเจน มีความหมายเป็นที่ยอมรับกันในวงสังคม
2) กาลเทศะ ให้ความสำคัญกับระดับภาษาที่ใช้สื่อสารกับผู้ที่อยู่ในฐานะทางสังคมแตกต่างกัน
ควรศึกษาก่อนลงมือเขียนว่าควรใช้คำต่างๆ อย่างไรจึงจะเหมาะสม
3) ความสุภาพ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำหรือข้อความที่มีความหมายแฝงหรือมีนัยทำให้ตีความได้ในแง่ลบ
4) สื่อความตรงไปตรงมา ควรยึดหลักใช้ภาษาเขียนที่อ่านเข้าใจง่าย คำที่เป็นภาษาพูดคนส่วนใหญ่มัก
เขียนปะปนและอาจหลงเข้าใจผิดว่าเป็นภาษาเขียน เช่น
- ยังไง (ภาษาพูด) ภาษาเขียนควรใช้ว่า อย่างไร
- เยอะแยะ (ภาษาพูด) ภาษาเขียนควรใช้ว่า มากมาย
4.1 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล (e-mail)
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล คือการติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือโดยการส่งข้อมูลในรูป
ของสัญญาณข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แทนการส่งจดหมาย รูปแบบและเนื้อหาของข้อความ ที่สื่อสารจึงมีทั้งความเป็นส่วนตัว เรื่องส่วนบุคลล และเรื่องสาธารณะ 4.3 ทวิตเตอร์ (Twitter)
ทวิตเตอร์ (Twitter) โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร สามารถเลือกรับข้อความ
เหล่านี้ทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ อีเมล เอสเอ็มเอส เมสเซนเจอร์ (IM), RSS, หรือผ่านโปรแกรมเฉพาะอย่าง Twitterific, Twhirl |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น